(https://www.siamsport.co.th/wp-content/uploads/2022/08/Wenger56569.jpg)
อาร์แซน เวนเกอร์ ระบุ สาเหตุที่สมัยก่อนเคยทะเลาะกับ โชเซ่ มูรินโญ่ บ่อย เป็นแค่เพราะตนไม่ชอบใจแนวทางการดำเนินงานของ เชลซี ไม่ใช่ว่าเกลียด มูรินโญ่ พร้อมเสริมว่ายังรัก อาร์เซน่อล และ พรีเมียร์ลีก สุดหัวใจ
อาร์แซน เวนเกอร์ ตำนานผู้จัดการทีมของ อาร์เซน่อล เปิดเผยว่าตนไม่ได้เกลียด โชเซ่ มูรินโญ่ แต่อย่างใด โดยสาเหตุที่เคยทะเลาะกับอีกฝ่ายบ่อยมันเป็นแค่เพราะตนไม่ชอบใจแนวทางการดำเนินงานของ เชลซี เท่านั้น
เวนเกอร์ เคยอยู่คุม อาร์เซน่อล เป็นเวลานานและประสบความสำเร็จอย่างมาก ซึ่งในช่วงนั้น มูรินโญ่ เป็นหนึ่งในคนที่มีปากเสียงกับเขาบ่อยๆ ด้วย จนทำให้หลายคนยกให้พวกเขาเป็นหนึ่งในคู่อริที่ดุเดือดที่สุดคู่หนึ่งของวงการฟุตบอลเมืองผู้ดี
อดีตกุนซือ อาร์เซน่อล กล่าวว่า "ถ้าให้พูดก็ต้องบอกว่ามัน (เกมระหว่าง อาร์เซน่อล กับ เชลซี ในสมัยนั้น) เป็นเกมใหญ่อยู่เสมอ มันเป็นเกมที่สามารถตัดสินแชมป์ได้สบายๆ และตอนนั้นทีมที่มีลุ้นแชมป์ก็มักจะเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด กับ เชลซี มากกว่าทีมอื่นๆ"
"อย่างไรก็ตาม ความเป็นอริของผมมันเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับสโมสรมากกว่าเรื่องส่วนตัว (หมายถึงกับผู้จัดการทีมคนอื่นๆ) อยู่เสมอ ผมไม่เคยพูดอะไรที่มันเป็นเรื่องส่วนตัวเลยนะ ที่สมัยนั้นผมมีปัญหากับ มูรินโญ่ บ่อยๆ มันเป็นเพราะผมรู้สึกว่า เชลซี เป็นทีมแรกที่ใช้เงินที่ไม่ได้มาจากพวกเขาเองจริงๆ ก็เท่านั้น (หมายถึง เชลซี ใช้เงินที่ได้จาก โรมัน อบราโมวิช โดยตรงเป็นหลัก ไม่ใช่จากการทำธุรกิจของสโมสรแบบของทีมอื่นๆ)"
เวนเกอร์ เสริมว่าตนยังรัก อาร์เซน่อล และ พรีเมียร์ลีก อยู่ เพียงแต่ที่ตัดสินใจลาทีมในตอนนั้นเป็นเพราะหมดอารมณ์ร่วมแล้ว "มันน่าเศร้านิดๆ นะ สถานการณ์ตอนนั้นคืออารมณ์ร่วมของผมมันไม่เหลือแล้ว แต่ไม่ใช่ว่าผมหมดรักแล้ว เพราะผมยังรัก อาร์เซน่อล อยู่ และยังรัก พรีเมียร์ลีก เช่นกัน มันเป็นลีกแรกที่ผมได้ดู และจนถึงทุกวันนี้สิ่งนั้น (ความรู้สึกที่มีให้ พรีเมียร์ลีก) มันก็ยังไม่ได้เปลี่ยนไป แต่คุณไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของมันอย่างใกล้ชิดเหมือนกับสมัยก่อนแล้ว ดังนั้นมัน (การไม่ได้คุมทีมใน พรีเมียร์ลีก อีกแล้ว) เลยเป็นเรื่องที่ทำใจได้ยากมากๆ"
"ผมเคยทำงานนี้มา 40 ปี ผมไม่เคยหยุดแม้แต่ปีเดียว ดังนั้นมันเลยแน่นอนว่านี่เป็นเรื่องที่ทำใจได้ยากพอตัว เพราะคุณจะคิดถึงความดุเดือด, ความเอาจริงเอาจัง, ช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยม หรือแม้กระทั่งช่วงเวลาที่แย่ๆ นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้มันทำใจได้ยากสุดๆ ถ้าให้เปรียบเปรยมันก็ต้องบอกว่าการทำงานกับสโมสรเดิมเป็นเวลา 22 ปีในวงการฟุตบอลน่ะมันก็เทียบเท่ากับช่วงเวลา 100 ปีของการใช้ชีวิตตามปกติเลย ดังนั้นคุณย่อมต้องคิดถึงมันบ้างเป็นธรรมดา"