(https://static.siamsport.co.th/column/2022/05/05/column202205050517588.jpg)
ถ้าใครได้ชมคุ้มค่าแก่การนอน....จริงๆ
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยกพลเยือนมาดริด รอบรองชนะเลิศนัดสองด้วยสกอร์นำ 4-3 และรูปเกมที่เหนือกว่าในเกมแรก แต่การมาเยือน "แชมป์13 สมัย" อย่างเรอัล มาดริด นั้น เป๊ป พยายามกำชับลูกทีมว่าอย่าต่อสู้กับประวัติศาสตร์
ของราชัน ถ้าคิดแบบนั้น แพ้ตั้งแต่ยังไม่แข่ง
แต่นั่นแหละ...ซานติอาโก เบรนาเบว ผ่านสังเวียนเจ้ายุโรปมาโชกโชน แม้ว่าสภาพทีมจะเป็นรอง แต่ฟุตบอลสู้ด้วยแทกติก และยอดโค้ชอย่าง คาร์โล อันเชลอตติ ที่พึ่งทำสถิติคว้าแชมป์ลีกสูงสุดห้าลีกดังคนแรก ก็ผ่านประสบการณ์แชมป์รายการนี้ถึงสามสมัยกับ เอซี มิลาน2 เรอัล มาดริด หนึ่ง
(http://static.siamsport.co.th/files/images/gettyimages-1395397434-594x594.jpg)
เขามีเป้าหมายที่จะเป็นโค้ชคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่เป็นแชมป์ยุโรป 4 สมัย
ยี่ห้อราชันชุดขาวไม่เคยธรรมดา....
มันเกิดอะไรขึ้นหลังจากนาทีที่ 73 เมื่อ มาห์เรส ยิงให้ แมนฯซิตี้ นำ 1-0
นั่นหมายความว่าเรอัล ต้องยิงสองประตูใน 17 นาทีสุดท้าย ถ้าใครได้ชมน่าจะคิดเหมือนกันว่า "ยาก" ตีเสมอ พอได้ แต่ยิงแมนฯซิตีสองลูกจากเกมที่เล่นมาหนึ่งชั่วโมงแล้วยังไม่ได้โอกาสมากนัก
ก่อนชนะในช่วงต่อเวลา 3-1 รวม 6-5 เข้าชิงกับหงส์แดงแล้ว
นั่นสิ...
1 แมนฯซิตี้ดูเกร็งๆ
(http://static.siamsport.co.th/files/images/gettyimages-1240446117-594x594.jpg)
ทีมเป๊ป เริ่มต้นเล่นเกมตามแบบฉบับของตัวเองด้วยการเพรสซิงแดนบน และครอบครองบอลเอาไว้กับทีม ในชุดที่ใช้ เชซุส, โฟเดน และ มาห์เรส เล่นหน้าสามคน แดนกลางมี เดอ บรอยน์, โรดริโก และ แบร์นาโด ซิลวา แม้ครองบอลมากกว่า แต่โอกาสเข้าไปยิงชัดๆ มีน้อยในครึ่งแรก ที่สำคัญพวกเขาเกือบโดนเรอัล มาดริด ยิงขึ้นนำด้วยซ้ำแต่ เบนเซมา, วินิซิอุส ไม่เด็ดขาดเอง
พอผ่านไป 25 นาทีครึ่งแรกดูเหมือนวิธีการเล่นของซิตี้ จะแผ่วลงไปเอง หลายจังหวะดูผิดธรรมชาติ นั่นอาจเป็นเพราะนักเตะเรอัล มาดริด มีความเก๋า เขี้ยว และชอบตัดฟาวล์ เบรกเกมให้สะดุด กระนั้น นักเตะซิตี ด็เล่นแล้วมีความกังวลทั้งที่สถานการณ์นำอยู่ ยิ่งนาทีที่ 73 มาห์เรส ยิงเข้าไปอย่างเด็ดขาดที่เสาแรก พวกเขามีสกอร์รวม 5-3 เข้ารอบแน่ๆ แต่กลับเล่นแล้วดูเครียดๆ จนกระทั่งเสียประตู2 ลูกในสองนาทีท้ายเฉยเลย
ถ้าดูทั้งเกม...พบว่าการโจมตี เรอัล มาดริด ทำได้ดีก็ต่อเมื่อ เรอัล มาดริด เสียบอลแล้วพวกเขาโจมตีเร็วเข้ามา แต่ถ้าบิลด์ อัพเกมขึ้นมา จังหวะสุดท้ายแดนสาม ไม่ได้สร้างความกดดันมากนัก ครึ่งแรกได้ยิงห้าครั้ง ส่วนใหญ่นอกเขตโทษ ครึ่งหลังก็คล้ายๆกัน บอลแดนสามไม่อันตราย ในจังหวะโจมตี ยกเว้น ไล่เพรส ให้นักเตะเรอัล เสียบอล แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรจากจุดนั้นมากนัก
2 อันเชลอตติแก้เกม
(http://static.siamsport.co.th/files/images/gettyimages-1240446847-594x594.jpg)
โทนี โครส กับ ลูกา โมดริช สองนักเตะเก๋าเกมโดนทยอยถอดออกในครึ่งหลัง
โครส โดนเปลี่ยนออกก่อน น.68 แล้วพอหลังจากโดนแมนฯซิตี้นำ โมดริช ก็ถูกเปลี่ยนออกเช่นกัน เพื่อเติมความสดมาสู้แมนฯซิตี้ รูปเกมหลังจากมีตัวสดลงมาก็สามารถลุยได้ จนทำให้ซิตี้ เล่นเกมที่ถนัดไม่ได้มากนำไปสู่การเสียประตูตีเสมอและลูกสองในที่สุด
3 วอล์คเกอร์เจ็บ
(http://static.siamsport.co.th/files/images/gettyimages-1240446352-594x594.jpg)
ดูลักษณะไม่สมบูรณ์ เหมือน เป๊ป ต้องการใช้แบ๊กขวาเพื่อหยุด วินิซิอุส ซึ่งเขาทำได้ดี แต่พอเจ็บนาทีที่ 72 เป็นต้นไป เกมทางขวาของซิตี เป็นรองเลย วินิซิอุส โชว์ฟอร์มพาทัวร์บ่อยครั้ง สร้างความปั่นป่วนได้เยอะ การโยก กานเซโล มาแทน ดูจะไม่ได้เปรียบอะไร
4 ทดเวลา6 นาที
(http://static.siamsport.co.th/files/images/gettyimages-1240448642-594x594.jpg)
มีส่วนครับ ประตูตีเสมอของ โรดริโก ที่ถูกเปลี่ยนลงมาเล่นแทน โครส เกิดขึ้นนาทีที่ 89 ก่อนชูป้ายหกนาที ซึ่งทำให้ทีมอยู่ในเกมพอมีเวลาเหลือยิงลูกสอง ซึ่งปรากฏว่า ซิตี้ ตั้งสติไม่ทัน โดน 1-1 จากโรดริโก ทีชาร์ตระยะ5 หลา กับการเทกตัวขึ้นโหม่ง 2-1 น.90+1 เป็นไปได้ไงเสียสองลูกอย่างรวดเร็ว ทำให้ต้องต่อเวลาอีก 30 นาทีเมื่อสกอร์รวม5-5
5 รูเบน ดิอาส หลงเหลี่ยม
(http://static.siamsport.co.th/files/images/gettyimages-1395412934-594x594.jpg)
รับผิดชอบในการเสียสองประตู ลูกโดนตีเสมอ ไม่เล่นบอล จังหวะ เบนเซมาแปะบอลเข้ากรอบหกหลา จากนั้นตัดฟาวล์ของ รูเบน ดิอาส สร้างความเสียหายให้กับเกม ในจังหวะที่ เบนเซมา โผเข้าหาบอล ซึ่ง ดิอาส พรวดทำฟาวล์ เลยโดนจุดโทษ เป็นประตูสำคัญที่ เบนเซมา ยิงให้เรอัล มาดริด ขึ้นนำ 3-1 นาทีที่ 95 สกอร์รวมเป็น 6-5 จากนั้นแรงเหวี่ยงมาเป็นของเรอัล มาดริด จนหมด ซิตี กลายเป็นรองในสถานการณ์ช่วงต่อเวลา
6 โรดริโก , วินิซิอุส สร้างปัญหา
(http://static.siamsport.co.th/files/images/gettyimages-1395410799-594x594.jpg)
วินิซิอุส และ โรดริเก สองตัวทำด้านข้างสามารถใช้ความเร็ว ความคล่องโจมตีแบ๊กสองข้างหรืออย่างน้อยดึงนักเตะแมนฯซิตี เข้ามาไล่ประกบ เสียเวลาไปกับการไล่ตามสองคนนี้ แถมตัดฟาวล์บ้างเป็นระยะ เกมของเป๊ป เลยไม่ต่อเนื่อง สะดุดในจังหวะที่กำลังได้ทำเกม คือทำให้ทีมเป๊ป ไม่ได้ครองบอลยาวๆเพื่อปิดเกมเรอัล มาดริด เหมือนที่ทำได้กับอีก 18 ทีมในพรีเมียร์ลีก
สมราคาแชมป์13 สมัย เรอัล มาดริด ที่สามารถจัดการ "เต็งแชมป์" อย่างแมนฯซิตี้ ให้หลุดวงโคจรได้อย่างยอดเยี่ยม ถึง120 นาที ใครจะคิดบ้างว่าพวกเขาจะยิงประตู 2 ลูกในเวลา 2 นาทีแล้วทำให้อยู่ในการแข่งขัน
เกมนัดสองนี้แมนฯซิตี้ ไม่ได้เหนือกว่าเรอัล มาดริด มากเหมือนเกมแรกในบ้าน แต่จุดหนึ่งที่พอมองเห็นคือเมื่อเกมรับ แมนฯซิตี้ เจอนักเตะตัวรุกที่มีคุณภาพ...พวกเขาก็พร้อมเสียประตูทันที
ชัยชนะครั้งสำคัญของเรอัล มาดริด ทำให้พวกเขาผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีกอีกครั้งพร้อมทั้งลุ้นแชมป์สมัยที่ 14 โดยคู่แข่งรอล้างตาพวกเขาอยู่อย่างใจจดใจจ่อ
(http://static.siamsport.co.th/files/images/gettyimages-1395417818-594x594.jpg)
** อันเชลอตติ เข้าชิง ชปล ครั้งที่5 มากสุดในบรรดาโค้ชยุโรป
ได้มาแล้ว3 แชมป์
**เรอัล มาดริด ชิงชปล 17 ได้มา13
เป็นการรีแมตช์ ไฟนัลเจ้ายุโรปอีกครั้ง
โดยเฉพาะครั้งนี้เตะกันที่กรุงปารีส สังเวียนแข้งที่ ลิเวอร์พูลเคยเอาชนะเรอัล มาดริด 1-0 เมื่อปี 1981 เป็นเจ้ายุโรปสมัยที่สาม นั่นรวมทั้งความต้องการล้างตาหลังจากแพ้เมื่อปี2018 ที่เคียฟ
ลิเวอร์พูล vs เรอัล มาดริด
เจ้ายุโรปแห่งสหราชอาณาจักร ปะทะ เจ้ายุโรปตัวจริง
28 พ.ค. ที่ปารีส