(https://www.siamsport.co.th/static/7896d0f3-fe06-4513-a46a-2396579b25b0.jpg)
หลังจาก อาร์เซน่อล เปิดบ้านพ่าย ไบรท์ตัน ยับเยิน 3-0 มันหมายความว่า แมนฯ ซิตี้ ต้องการอีกสามแต้มเท่านั้นในสามนัดที่เหลือของพวกเขาต่อการป้องกันแชมป์ พรีเมียร์ลีก
แต่บางที เรือใบสีฟ้า อาจขอแค่สองแต้มก็ได้กับการซิวแชมป์มาครองเป็นซีซั่นที่สามติดต่อกันจากการเฉือนชนะทีม ปืนใหญ่ ด้วยผลต่างประตูได้เสีย
ไม่เพียงแค่นั้น หากเกมวันเสาร์นี้ ทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ออกไปพ่ายต่อ ฟอเรสต์ แชมป์ก็จะตกอยู่กับทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เร็วขึ้นอีกในทันทีเนื่องจากสโมสรแห่งลอนดอนไม่มีทางเก็บแต้มแซงหน้าทีมจ่าฝูงได้อีกต่อไป
จากสถานการณ์ล่าสุด แมนฯ ซิตี้ ลงเล่นไปแล้ว 35 นัด มีแต้มนำ อาร์เซน่อล ที่ลงสนาม 36 นัดอยู่สี่แต้ม และเหลือโปรแกรมอยู่ในมืออีกสามนัด
เท่ากับว่าทีม ปืนใหญ่ สามารถเก็บแต้มเพิ่มได้แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย 87 แต้มซึ่งหมายความว่า เรือใบสีฟ้า ขอชนะอีกแค่นัดเดียวพวกเขาก็จะครองแชมป์ได้โดยไม่มีอะไรมาขวางกั้น
ขณะเดียวกัน ทีมของ กวาร์ดิโอล่า ขอเสมอสองนัด และแพ้หนึ่งนัดในสามนัดที่เหลือก็ยังได้เนื่องจากถึงขณะนี้พวกเขามีผลต่างประตูได้เสียมากกว่ารองจ่าฝูงถึง 18 ประตู
สำหรับโปรแกรมนัดต่อไป อาร์เซน่อล จะลงสนามก่อนในวันเสาร์นี้ด้วยการบุกไปเยือน ฟอเรสต์ ซึ่งสถานการณ์บีบให้ทีมเมืองหลวงต้องคว้าสามแต้มออกจาก ซิตี้ กราวนด์ ให้ได้เท่านั้น
และหากทีมของ อาร์เตต้า ออกอาการเป๋พ่ายต่อ เจ้าป่า เข้าให้อีก แมนฯ ซิตี้ จะได้แชมป์แบบไม่เสียเหงื่อก่อนลงเล่นในวันอาทิตย์นัดเปิดบ้านปะทะกับ เชลซี
ในกรณีที่ อาร์เซน่อล ปราชัยให้กับ ฟอเรสต์ พวกเขามีโอกาสเก็บแต้มมากที่สุด 84 แต้มหากนัดปิดซีซั่นสามารถเอาชนะ วูล์ฟส์ ที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ได้ซึ่งจะถือว่าสายเกินไปแล้วเนื่องจากหลังจบเกมยำใหญ่ ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน แชมป์เก่าเก็บเพิ่มได้เป็น 85 แต้มแล้ว
ขณะเดียวกัน หาก อาร์เซน่อล เก็บได้แค่แต้มเดียวในเกมฉะกับ ฟอเรสต์ ทีมจ่าฝูงก็สามารถเสมอกับ สิงห์บลูส์ ที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม ได้ซึ่งมากพอที่จะทำให้พวกเขาได้แชมป์ไปครองอีกสมัย
หรือไม่เช่นนั้น หาก แมนฯ ซิตี้ นึกอยากแพ้รวดในอีกสามเกมที่เหลือ พวกเขาก็อย่าปล่อยปะให้ผลต่างประตูได้เสียติดลบจนโอเวอร์ก็แล้วกันในกรณีที่ อาร์เซน่อล เสมอกับ ฟอเรสต์ และชนะ วูล์ฟส์ ซึ่งจะทำให้พวกเขาเก็บเพิ่มได้ 85 แต้มเท่ากับที่ทีมของ กวาร์ดิโอล่า คว้าไปแล้วในตอนนี้หลังจบเกมที่ กูดิสัน พาร์ค เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี หาก อาร์เซน่อล สยบ ฟอเรสต์ ได้สำเร็จ แมนฯ ซิตี้ ก็แค่เอาชนะ เชลซี ในเกมหน้าให้ได้เท่านั้นพวกเขาก็จะการันตีการคว้าแชมป์แบบ 100% ขณะที่ยังเหลือเกมให้ลงเล่นอีกสองนัด
ถึงกระนั้น ดราม่าจะอุบัติขึ้นอย่างน่าสนุกหาก อาร์เซน่อล ชนะ ฟอเรสต์ ในเกมรองสุดท้ายของพวกเขาแล้วเผอิญว่า แมนฯ ซิตี้ แพ้รวดในสองเกมหน้ากับ เชลซี และเกมบุกไปเยือน ไบรท์ตัน ซึ่งจะทำให้ทั้งสองทีมต้องลุ้นแย่งแชมป์กันในนัดสุดท้ายโดยทีม ปืนใหญ่ จะมี 84 แต้มก่อนเปิดบ้านต้อนรับทีม หมาป่า ขณะที่ เรือใบสีฟ้า จะมี 85 แต้มเท่าเดิมก่อนบุกไปเยือน เบรนท์ฟอร์ด ในเกมปิดซีซั่น
สำหรับ อาร์เซน่อล โอกาสครองแชมป์ของพวกเขามีอยู่สถานเดียวคือต้องชนะทั้งสองเกมที่เหลือ และหวังว่า แมนฯ ซิตี้ จะเก็บได้แค่แต้มเดียวจากสามนัดสุดท้ายซึ่งทีมรองจ่าฝูงจะพลิกกลับมาเข้าเส้นชัยแทนจากการเก็บแต้มได้ 87:86 แต้ม
ส่วน แมนฯ ซิตี้ ขอแค่เสมอสองนัด และแพ้หนึ่งนัดในสามนัดสุดท้าย พวกเขาก็จะได้ชูโทรฟี่ด้วยผลต่างประตูได้เสียที่เหนือกว่าจากการมี 87 แต้มเท่ากันหากว่าทีมเมืองกรุงจะเก็บได้หกแต้มเต็มในสองนัดที่เหลือ
อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้แล้วน่าจะเป็นเรื่องยากที่สถานการณ์การแย่งแชมป์จะค้างเติ่งจนถึงนัดสุดท้ายเนื่องจากฟอร์มหลังของทั้งสองทีมต่างกันราวฟ้ากับดิน
กล่าวคือขณะที่ อาร์เซน่อล เก็บได้แค่ 9 แต้มจากเจ็ดนัดหลัง แมนฯ ซิตี้ เดินหน้าโกยแต้มไปได้แบบไม่แบ่งใครทั้งสิ้น 21 แต้มเต็ม
- ผลงาน 7 นัดหลังของ อาร์เซน่อล
ลิเวอร์พูล 2- อาร์เซน่อล 2
เวสต์แฮม 2- อาร์เซน่อล 2
อาร์เซน่อล 3- เซาธ์แฮมป์ตัน 3
แมนฯ ซิตี้ 4- อาร์เซน่อล 1
อาร์เซน่อล 3- เชลซี 1
นิวคาสเซิ่ล 0- อาร์เซน่อล 2
อาร์เซน่อล 0- ไบรท์ตัน 3
(https://www.siamsport.co.th/static/c2b14d92-6cfb-4a36-b2dc-3f5cc5897cb4.jpg)
- ผลงาน 7 นัดหลังของ แมนฯ ซิตี้
เซาธ์แฮมป์ตัน 1- แมนฯ ซิตี้ 4
แมนฯ ซิตี้ 3- เลสเตอร์ 1
แมนฯ ซิตี้ 4- อาร์เซน่อล 1
ฟูแล่ม 1- แมนฯ ซิตี้ 2
แมนฯ ซิตี้ 3- เวสต์แฮม 0
แมนฯ ซิตี้ 2- ลีดส์ 1
เอฟเวอร์ตัน 0- แมนฯ ซิตี้ 3
- โปรแกรมที่เหลือของ แมนฯ ซิตี้
17 พ.ค. : เรอัล มาดริด (เหย้า) แชมเปี้ยนส์ลีก รอบรองชนะเลิศนัดสอง
21 พ.ค. : เชลซี (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
24 พ.ค. : ไบรท์ตัน (เยือน) พรีเมียร์ลีก
28 พ.ค. : เบรนท์ฟอร์ด (เยือน) พรีเมียร์ลีก
3 มิ.ย. : แมนฯ ยูไนเต็ด (เวมบลีย์) รอบชิงชนะเลิศ เอฟเอคัพ