• Welcome to เว็บคาสิโนออนไลน์ที่ดีที่สุด MetaBet191 มีเครดิตฟรีทดลองเล่น. Please log in or sign up.
 

ยิงกันถล่ม! เกร็ดและสถิติน่าสนใจหลัง แมนซิตี้ เฉือน เรอัล มาดริด

เริ่มโดย ปีศาจแดง1998, เม.ย 28, 2022, 12:45 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

ปีศาจแดง1998



เกมที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม เมื่อวันอังคารที่ 26 เมษายน ที่ผ่านมา ถือเป็นเกมที่สนุกมากๆ หลังจากที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สามารถเอาชนะ เรอัล มาดริด ไปได้ 4-3 ซึ่งถึงแม้ว่า "เรือใบสีฟ้า" จะเก็บชัยชนะในนัดแรกไปได้ แต่ตอนนี้เกมมันก็ยังมีโอกาสสูงที่จะออกได้ทุกหน้า

    ทั้งนี้ ผลการแข่งขันและเหตุการณ์หลายอย่างในเกมนี้ทำให้เกิดสถิติที่น่าสนใจได้บางอันเช่นกัน ซึ่งบางอันถือเป็นเรื่องที่หลายคนอาจจะคาดไม่ถึงเลยด้วย อย่างเช่นการที่มีนักเตะคนหนึ่งทำได้เหนือกว่า ลิโอเนล เมสซี่ เป็นต้น

    - แมนฯ ซิตี้ กับภารกิจที่ไม่เคยมีใครทำได้
    ด้วยความที่ มาดริด เป็นทีมใหญ่และมีขุมกำลังที่แข็งแกร่งแทบจะทุกฤดูกาล ทำให้มันเป็นเรื่องยากมากๆ ที่จะเอาชนะพวกเขาให้ได้สัก 1 นัด ต่อให้คุณจะมีขุมกำลังที่ยอดเยี่ยมก็ตาม



    ถึงกระนั้น ตอนนี้มันเท่ากับว่า แมนฯ ซิตี้ สามารถเอาชนะ มาดริด ไปได้แล้วถึง 3 ครั้งจากการเจอกันทั้งหมด 7 หน และทำให้พวกเขาถือเป็นทีมจากอังกฤษทีมแรกที่สามารถคว่ำ มาดริด ในรายการ แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้อย่างน้อย 3 เกม แถมยังมาจากการเจอกัน 3 ครั้งหลังสุดทั้งหมดด้วย

    - โฟเด้น จารึกชื่อในหน้าประวัติศาสตร์
    แม้จะเพิ่งมีอายุแค่ 21 ปี แต่ ฟิล โฟเด้น กองกลาง แมนฯ ซิตี้ ก็ตอกย้ำอีกครั้งว่าเขาถือเป็นความหวังในอนาคตให้กับทั้งต้นสังกัดและทีมชาติได้ หลังจากเป็นคนทำประตูที่ 3 ให้กับทีมในเกมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา จนทำให้เท่ากับว่าตอนนี้เขาครองบัลลังก์ร่วมของการเป็นนักเตะชาวอังกฤษที่ทำประตูในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้มากที่สุดตั้งแต่ตอนที่ยังมีอายุ 21 ปีหรือน้อยกว่านั้น ด้วยจำนวน 9 ประตู



    ทั้งนี้ ตอนนี้มันถือว่าเขาเป็นเจ้าของสถิติร่วมกับ เวย์น รูนี่ย์ อดีตยอดดาวยิง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และแน่นอนว่า โฟเด้น มีโอกาสที่จะขึ้นเป็นเจ้าของสถิติแบบเดี่ยวๆ แล้ว เพราะวันเกิดของเขาอยู่ที่ 28 พฤษภาคม

    ในขณะเดียวกัน โฟเด้น ก็ยังเป็นนักเตะสัญชาติอังกฤษคนที่ 8 ที่ทำประตูในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ด้วย ต่อจาก แอนดี้ โคล, สตีฟ แม็คมานามาน, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, โจ โคล, พอล สโคลส์, รูนี่ย์ และ เมสัน เมาน์ท

    - เบนเซม่า ร้อนแรงสุดๆ
    อย่างที่รู้กันดีว่าตลอดช่วงหลายฤดูกาลที่ผ่านมา เบนเซม่า สามารถทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำ ซึ่งเมื่อวันอังคารที่ผ่ามาเขาก็ยิงเพิ่มได้ 2 ลูก จนทำให้ตอนนี้เขาเป็นนักเตะที่ทำประตูในรอบตัดเชือกของเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ร่วมกับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่จำนวน 7 ประตู โดยถ้านับแค่รอบนี้เขายิงได้มากกว่า ลิโอเนล เมสซี่ ที่ทำไป 6 ลูกด้วยซ้ำ ส่วนที่ 1 ในชาร์ตนี้คือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่กดไป 13 ลูก



    นอกจากนี้ เบนเซม่า ก็ยังกลายเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ของ แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่สามารถทำประตูใส่คู่แข่งจากประเทศเดียวกันในเกมเยือนของรอบน็อกเอาต์ประจำศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก ภายในฤดูกาลเดียวกันได้อย่างน้อย 5 ลูกด้วย หลังจากในรอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรกของซีซั่นนี้เขาก็เพิ่งบุกไปทำแฮตทริกที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ขอ13:17 2022-04-27ง เชลซี มาได้

    ไม่ใช่แค่นั้น เพราะตอนนี้ เบนเซม่า กลายเป็นนักเตะชาวฝรั่งเศสคนที่ 3 ที่ทำประตูให้ทีมใน 5 ลีกใหญ่ของทวีปยุโรปจากการลงเล่นในทุกรายการได้อย่างน้อย 40 ลูกภายในซีซั่นเดียวอีกต่างหาก โดย 2 คนก่อนหน้านี้คือ สเตฟ็อง กีวาร์ช ที่เคยทำได้ในฤดูกาล 1996-97 กับ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ที่ทำเอาไว้เมื่อซีซั่นก่อน

    - ยิงกันกระจุยอีกครั้ง
    แน่นอนว่าการที่มีประตูเกิดขึ้นถึง 7 ลูก ทำให้แฟนบอลหลายคนมีความสุขกับเกมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาจนเรียกได้ว่าคุ้มค่าตั๋วหรือค่าไฟเลยทีเดียว แต่มันก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เคยเกิดการทำถึง 7 ลูกภายในเกม 1 นัดของรอบรองชนะเลิศในศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก



    ย้อนกลับไปเมื่อซีซั่น 1994-95 อาแจ็กซ์ เคยโชว์ฟอร์มสุดยอดด้วยการเปิดบ้านเอาชนะ บาเยิร์น มิวนิค 5-2 ในการเล่นนัดสอง จนทำให้รวม 2 นัดพวกเขาชนะไปด้วยสกอร์ดังกล่าว ก่อนที่ อาแจ็กซ์ จะเข้าไปคว้าแชมป์มาครองในบั้นปลายได้จากการเฉือน เอซี มิลาน 1-0

    ขณะที่เมื่อฤดูกาล 2017-18 ลิเวอร์พูล ก็เคยเปิดรัง แอนฟิลด์ คว้าชัยเหนือ อาแอส โรม่า 5-2 ในนัดแรกมาแล้ว ทำให้ถึงแม้นัดสอง "หงส์แดง" จะแพ้ 2-4 แต่พวกเขาก็ยังเข้ารอบจากการชนะด้วยสกอร์รวม 7-6 อยู่ดี อย่างไรก็ตาม สุดท้ายทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็ไปแพ้ เรอัล มาดริด 1-3 ในนัดชิงดำ จนทำให้ชวดแชมป์ไป

Similar topics (5)

SITEMAP : วิธีเล่นคาสิโน สูตรพิชิตพนันออนไลน์ | แนะนำเว็บคาสิโนของคุณให้โลกรู้จัก