• Welcome to เว็บคาสิโนออนไลน์ที่ดีที่สุด MetaBet191 มีเครดิตฟรีทดลองเล่น. Please log in or sign up.
 
เว็บบาคาร่า SSGAME350 อันดับ 1 ยอดนิยม เว็บคาสิโนออนไลน์ UFA350 เว็บนี้ดีที่สุดในโลก
เว็บคาสิโนออนไลน์ SSGAME6666 เครดิตฟรี ไม่ต้องฝาก แทงบอลออนไลน์ UFAC4 เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์
เว็บตรงแทงบอลออนไลน์ UFABET เว็บรวมบาคาร่าออนไลน์ SAGAME66 เครดิตฟรี
เว็บบาคาร่าออนไลน์ JUAD888 เครดิตฟรี แทงบอลออนไลน์ UFAZEED ไม่มีขั้นต่ำ
เว็บบาคาร่าออนไลน์อันดับหนึ่ง BACCARAT.GAME เว็บสล็อตออนไลน์ SAGAME350 ปั่นสล็อตเครดิตฟรี
เว็บบอร์ดพนันออนไลน์ รายใหญ่ของไทย COINBET999 เว็บที่นักพนันเลือกเล่นกันมากที่สุด

เรื่องที่เดอะค็อปไม่เคยเจอมาก่อน

เริ่มโดย ปีศาจแดง1998, เม.ย 18, 2022, 02:55 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

ปีศาจแดง1998



17 เมษายน..เลยกลางเดือนเมษายนมาแล้ว แต่ลิเวอร์พูลยังไม่หมดลุ้นรายการที่ลงแข่งเลยแม้แต่รายการเดียว

    ลีก คัพ ได้แชมป์ไปแล้ว พรีเมียร์ลีก ขับเคี่ยวกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เข้าสู่ 7 นัดสุดท้ายคะแนนห่างกันหนึ่งแต้ม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เข้ารอบรองชนะเลิศ

    เอฟเอ คัพ เข้ารอบชิงชนะเลิศมารู้ตัวกันอีกที แฟนบอลลิเวอร์พูลก็พบว่าตัวเองช่างมีความสุข ความรู้สึกยังได้ลุ้นทุกถ้วยอย่างนี้ช่างมีความสุข

    ความรู้สึกที่ใกล้กันหน่อยอาจจะต้องย้อนไปเมื่อฤดูกาล 2018/19 ที่ตอนนั้นเบียดบี้แย่งแชมป์พรีเมียร์ลีกกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้จนถึงหยดสุดท้าย และเข้าชิงเจ้ายุโรปที่มาดริด

    แต่กับฟุตบอลถ้วยในประเทศ ตกรอบสามทั้งสองรายการ



    หรือในซีซั่น 2015/16 ฤดูกาลแรกของคล็อปป์ที่เข้ามารับตำแหน่งในเดือนตุลาคมปี 2015 เขาก็พาทีมเข้าชิงฟุตบอลถ้วยทั้ง ลีก คัพ และ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก แต่เอฟเอ คัพตกรอบสี่ ส่วนพรีเมียร์ลีกไม่มีลุ้นอะไร

    ในยุค ราฟาเอล เบนิเตซ ทีมได้แชมป์ยุโรปปี 2005 ได้แชมป์เอฟเอ คัพปี 2006 เข้าชิงเจ้ายุโรปปี 2007 เข้ารอบรองฯ แชมเปี้ยนส์ ลีกปี 2008 ได้ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกปี 2009 ได้ล่าความสำเร็จทุกซีซั่น แต่ทั้งหมดแทบไม่เคยเกิดขึ้นภายในฤดูกาลเดียวกัน หรือเต็มที่เลยก็มีลุ้น 2 รายการก่อนจะหลุดวงโคจร

    ย้อนกลับขึ้นไปอีกก็คงจะเป็นฤดูกาล 2000/01 ในยุค เชราร์ อุลลิเย่ร์ ที่พาทีมเข้าชิงฟุตบอลถ้วย 3 รายการและคว้าแชมป์ได้ทั้งหมด แต่พรีเมียร์ลีกได้แต่เป็นผู้ชมตามเคย จำได้ว่าความรู้สึกตอนนั้นตื่นเต้นไม่เบา การเข้าชิงฟุตบอลถ้วยจะอย่างไรก็น่าตื่นเต้นอยู่แล้ว

    คงต้องเป็นยุคทศวรรษ 1980 กับ 1970 กระมังครับที่ความรู้สึก "เอาทุกรายการ" อย่างนี้เกิดขึ้น ฤดูกาล 1983/84 โจ เฟแกน พาลิเวอร์พูลคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ ดิวิชั่นหนึ่ง-ยูโรเปี้ยน คัพ-ลีก คัพ แต่เอฟเอ คัพตกรอบสี่

    ย้อนขึ้นไปอีกในฤดูกาล 1976/77 เกือบคว้าทริปเปิลแชมป์ใหญ่ได้ กดแชมป์ดิวิชั่นหนึ่งกับยูโรเปี้ยน คัพ มาครองได้แล้วแต่แพ้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในนัดชิงเอฟเอ คัพที่เวมบลีย์ ขณะที่ลีก คัพตกรอบสอง



    ไกลจริงนะครับ มาคิดทบทวนดูอย่างถี่ถ้วน ฤดูกาลนี้ลิเวอร์พูลมาไกลมากจริงๆ ไกลอย่างไม่น่าเชื่อ กลางเดือนเมษายนแล้วยังมีลุ้นแชมป์ทุกรายการไม่มีตกหล่นเลย

    สุดท้ายแล้วมันจะเป็นอย่างไรไม่รู้หรอก 1 แชมป์ 2 แชมป์ 3 แชมป์ 4 แชมป์ แต่สิ่งที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ และทีมของเขาบอกกับเราก็คือนี่คือฤดูกาลที่ดีที่สุดอีกฤดูกาลหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของสโมสรไปเรียบร้อยแล้ว

    ต่อให้บทสรุปได้เพียงแชมป์ลีก คัพรายการเดียว มันก็ยังเป็นหนึ่งในฤดูกาลที่ดีที่สุดของสโมสร เพราะไม่เคยมีปีไหนที่ทีมมาไกลขนาดนี้มาก่อน มันเป็นประวัติศาสตร์ที่เดอะค็อปไม่เคยสัมผัส และบอกได้เลยว่าความรู้สึกดีที่เกิดขึ้น
ในตอนนี้แม้จะมากมายมหาศาลแต่ก็ยังเป็นความรู้สึกดีที่น้อยที่สุดแล้ว มันจะดียิ่งไปกว่านี้ได้อีกถ้าบทสรุปมีแชมป์เพิ่มจากลีก คัพ

    ความรู้สึกดี ณ ปัจจุบันคือ Minimum ครับ ส่วน Maximum จะไปถึงไหนก็รอติดตามลุ้นด้วยอารมณ์ที่คึกคักกันเถิด

    กับการผ่านแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เข้าชิงเอฟเอ คัพในครั้งนี้ จะด้วยเหตุผลกลใดก็ตามนับว่าลิเวอร์พูลลงโทษทีมเรือใบสีฟ้าได้เมื่อช่องเปิด การจัดตัวของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เป็นส่วนหนึ่ง เขาย่อมมีเหตุผลของเขาอยู่แล้วแต่ที่แน่ๆ คือลิเวอร์พูลฉวยโอกาสที่ซิตี้เปิดให้นั้นเอาไว้อย่างเต็มมือ

    โอกาสยิง 4 ครั้งในครึ่งแรกเป็น 3 ประตู และมันกลายเป็นกุญแจสำคัญพาทีมเข้าสู่รอบชิงเพราะเป็นความห่างเกินกว่าที่ซิตี้จะไล่ได้ทันแม้จะตั้งหลักได้และเกือบจะทำสำเร็จในครึ่งหลังก็ตาม

    เปรียบเทียบย้อนกลับไปแค่สัปดาห์ก่อนในวันที่ลิเวอร์พูลเจอจี้จุดอ่อนมากมายในครึ่งแรกที่เอติฮัด สเตเดี้ยม แมนฯ ซิตี้กลับลงโทษหงส์แดงไม่ได้

    เกมนั้นซิตี้ควรจะยิงได้สัก 4 ประตูเป็นอย่างน้อยเมื่อหมดครึ่งแรกและน่าจะนำห่างสัก 4-1 หรือ 5-1 ด้วยซ้ำ แต่กลายเป็นว่าพวกเขากลับเข้าห้องแต่งตัวด้วยการนำคู่แข่งแย่งแชมป์เพียงประตูเดียว แน่นอนมันเป็นกุญแจสำคัญอีกเช่นกันที่ทำให้ลิเวอร์พูลกลับมามีแต้มได้

    ผมคิดว่าจุดเด่นมากๆ ของลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้คือจังหวะเวลาหรือไทม์มิ่ง โปรแกรมเตะ สภาพทีม ฟอร์มของคู่ต่อสู้ หรือกระทั่งคู่แข่งที่ต้องพบในช่วงเวลาตึงเครียด ทุกอย่างดูเป็นใจไปหมด

    จังหวะเวลาของลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้สอดคล้องสอดรับกันอย่างลงตัว แย่ในช่วงที่งานเบา แน่นในช่วงที่งานหนัก ลองดูจากความพร้อมก่อนเจอแมนฯ ซิตี้เกมล่าสุดนี้ก็ได้ครับ เพราะในขณะที่ซิตี้ต้องเดินทางไปวัดกับแอตเลติโก มาดริด อย่างหนักหน่วงเปลืองทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต คล็อปป์กลับสามารถปรับทัพเตรียมตัวเตะเอฟเอ คัพได้ตั้งแต่เกมนัดสองกับเบนฟิก้า

    ไม่เพียงหมุนเอาชุดสองลงเล่นเพราะชนะขาดมาในเกมแรกเท่านั้น แต่ยังทยอยส่งพวกตัวหลักลงมาเรียกจังหวะในเกมช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายเนื่องจากสามารถเปลี่ยนตัวได้ 5 คนอีกด้วย ทั้งยังเล่นในแอนฟิลด์ไม่ต้องวุ่นวายเรื่องการเดินทางใดๆ

    การเปลี่ยนตัวได้ 5 คนในฟุตบอลถ้วยทั้งเกมยุโรปและในประเทศนั้นมีส่วนสำคัญในการตะลุยผ่านเข้ารอบลึกๆ ยิ่งการพบกับทีมที่อ่อนกว่ามากคล็อปป์สามารถสำรองนักเตะตัวหลักไว้ข้างสนามกรณีเผื่อเหลือเผื่อขาดได้ และมันส่งผลดีต่อการทำศึกในเกมลีกด้วยเช่นกัน



    เวลานี้หลายคนเป็นห่วง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ฟอร์มการเล่นและความมั่นใจหดหายไปมาก แต่สำหรับผมไม่รู้สึกห่วงใดๆ เลย ตรงกันข้ามกลับมองว่าดีเสียอีก

    ก็ด้วยไทม์มิ่งของทีมอีกนั่นแหละครับ

    ซาลาห์ฟอร์มตกช่วงนี้นับว่าดีที่สุดแล้วเพราะทีมไม่เสียหายอะไรเลยในเรื่องผลการแข่งขัน เกมลีกยังลุ้นแชมป์ ชนะมา 10 เกมรวดก่อนเสมอซิตี้ บอลถ้วยก็เข้าชิงเอฟเอ คัพ เข้าตัดเชือกแชมเปี้ยนส์ ลีก โดยธรรมชาติแล้วเมื่อมีขึ้นก็ย่อมมีลง มีลงแล้วก็จะมีขึ้น ซาลาห์อาจจะกลับมาระเบิดฟอร์มถล่มประตูได้ทันเวลาในช่วงชี้เป็นชี้ตายของฤดูกาลนี้ก็ได้ใครจะรู้

    ฟอร์มตกช่วงนี้เพื่อที่จะกลับมาพังประตูในช่วงสำคัญ ดีกว่าฟอร์มระเบิดระเบ้อในช่วงนี้แล้วไปฝืดเอาในรอบรองฯ แชมเปี้ยนส์ ลีก กับบียาร์เรอัล หรือนัดชิงเอฟเอ คัพ หรือพรีเมียร์ลีกท้ายฤดูกาล

    เรื่องอะไรทำนองนี้เกิดขึ้นกับลิเวอร์พูลตลอดฤดูกาล 2021/22 ฝีมือด้วย ฝีตีนด้วย โชคด้วย จังหวะจะโคนไทม์มิ่งด้วย ผมจะไม่แปลกใจเลยถ้า ซาลาห์ จะกลับมาคืนฟอร์มถล่มประตูในอีก 1-2 สัปดาห์ข้างหน้าแล้วลากยาวไปจนจบฤดูกาล เพราะไทม์มิ่งของลิเวอร์พูลฤดูกาลนี้คล้ายจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ



    หรือต่อให้มันไม่เกิดขึ้น.. หากซาลาห์หาฟอร์มเก่งของตัวเองไม่เจอ ก็ไม่เป็นไรนี่ครับ ผลงาน ณ จุดนี้ก็บอกเราดีอยู่แล้วว่าลิเวอร์พูลดีได้ด้วยทีม ไม่ใช่แค่คนใดคนหนึ่งเพียงคนเดียว

    ผ่านครึ่งเดือนเมษายนมาแล้ว ลิเวอร์พูลยังมีลุ้นแชมป์ทุกถ้วยทุกรายการ ผู้คนพากันพูดถึงเรื่อง 4 แชมป์ไม่เพียงแค่กองเชียร์หงส์แดงเท่านั้น

    มันคือเรื่องที่เดอะค็อปไม่เคยเจอมาก่อน

    ดื่มด่ำครับ.. แค่เราดื่มด่ำไปกับมัน และก็อย่างที่บอกไปนั่นแหละ ความสุขนี้ยังแค่มินิมัม ต่อให้มันสิ้นสุดแค่มินิมัมนี้ก็โคตรจะสุขอยู่แล้ว หากไปถึงแม็กซิมัมมันจะขนาดไหนกันนะ

SITEMAP : วิธีเล่นคาสิโน สูตรพิชิตพนันออนไลน์ | แนะนำเว็บคาสิโนของคุณให้โลกรู้จัก

เว็บตรงสล็อต CQ9 GAMING เล่นง่ายได้เงินจริง สมัครสล็อตโจ๊กเกอร์ JOKER GAMING แจ็คพ็อตแตกง่าย สล็อตออนไลน์ GAME350 สมัครบาคาร่า SA GAMING รับโบนัส 50% ทางเข้า UFABET เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์